วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

งานชิ้นที่6 ออกแบบศิลป

1.D2B

2. ข้อมูลเบื้องต้น

ประวัติส่วนตัว
การรวมตัวของ 3 หนุ่ม บิ๊ก - อภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ, แดน - วรเวช ดานุวงศ์ และ บีม - กวี ตันจรารักษ์ ภายใต้ชื่อ ดีทูบี ที่เปิดตัวด้วยเพลงช้า ต่อหน้าฉัน (เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร) ด้วยน้ำเสียงของ แดน ที่โดนใจใครไปแล้วหลายคน วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2544 เป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางสื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ ครอบครัวของทั้ง 3 หนุ่ม และแฟนเพลงที่มาให้กำลังใจกันอย่างมากมาย เพลงแรกที่ดีทูบีเลือกมาฝากทุกคน คือ เพลง ซ่าส์ (สั่นๆ) จากนั้น ทั้ง 3 หนุ่มก็มาร่วมกันเปิดใจถึงที่มาและการทำงานในอัลบั้มชุดนี้ โดยจะมีเผากันเองบ้างเป็นระยะๆ ตามประสาหนุ่มๆ ที่ทำงานร่วมกัน ปิดท้ายการเปิดตัวในวันนั้นด้วยเพลงช้า ต่อหน้าฉัน (เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร) และคนใจอ่อน (อ่อนใจ)วางแผง (อัลบั้ม 1) :. 19 ธันวาคม 2544 เปิดตัว (อัลบั้ม 1) :. 20 ธันวาคม 2544

กำหนดการ

จัดงานขึ้นในวันที14กุมภาคม 2553 ณ MCC หอ เดอะมอลล์บางกะปิ โดยมีแขกรับเซิญมากมาย


3.กลุ่มเป้าหมาย วัยรุ่นอายุ18-26 ขึ้นไป




4.Corcept MUSIC OF LOVE





5.mod&tone

มีความสุข




มีความรัก



อารมณ์ซึ้งๆๆ



งานชิ้นที่5

อร่อยโดน รสชาติเต็มร้อย น้ำตาล0%

งานชิ้นที่4 เทคนิคการนำเสนอ



1.ภาพอุปมา


เป็นภาพที่น้ำเหมือนเสื้อผ้าที่ผู้หญิง

ใส่อยู่จึงทำให้เป็นภาพอุปมา

2ภาพที่ผิดปกติจากดิม



คนไม่สามารถที่จะรีดเสื้อผ้าที่บนตัวเองที่กำลังใส่อยู่จึงเป็นภาพผิดปกติจากเดิม
3.ภาพเหนือจริง


คนไม่สามารถที่จะมีจมูกเหมือนหมูได้
4ภาพใช้มุมกล้อง


แทนสายตาของผู้ดูหรือผู้ถ่าย

5ภาพสองสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน

ภาพคนกับหมีโคล่าไม่สามารถเข้ากันได้

6.ภาพล้อเลียน

ภาพเด็กมาเลียนแบบพี่แมคโดโน
7.ภาพขนดไม่ปกติ


หัวของผู้หญิงในภาพใหญ่กว่าลำตัวและ ประตูเก้าอี้ โต๊ะ รูปภาพ





งานชิ้นที่3 วิธีการใช้hPotoshop

***1. การปรับแต่งภาพกราฟิก***ภาพที่ได้จากกล้องดิจิตอลเป็นไฟล์กราฟิกประเภทหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า ไฟล์ภาพแบบ "บิทแมพ" (Bitmap) คุณสมบัติทีสำคัญของไหล์ประเภทนี้คือประกอบขึ้นจากจุดสี ขนาดเล็กจำนวนมากที่เรียกว่า "พิกเซล" (Pixel) เรียงตัวกันเป็นรูปตาราง เนื่องจากจุดสีเหล่านี้เล็กมากเมื่อเรามองแบบรวม ๆ จึงเห็นเป็นภาพถ่ายที่มีการไล่ระดับสีสมจริงเหมือนธรรมชาติ การปรับภาพให้คมชัด (Unsharp Mask) Photoshop สามารถปรับภาพที่เบลอให้คมชัดขึ้นได้ แต่คำสั่งนี้จะให้ผลดีในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าปรับมากเกินไปจะทำให้เห็นขอบวัตถุในภาพเป็นเส้นหรือรัศมีอย่างชัดเจนจนดูไม่สมจริงเลือกคำสั่ง Filter>sharpen>Unsharp Mask การใช้ Filter Gallery เปนเครื่องมือที่ช่วยให้เราใส่กราฟิกให้กับภาพได้ครั้งละหลายตัวโดยไม่ต้องทำทีละคำสั่ง มีภาพตัวอย่างแสดงให้เห็นผลลัพธ์ของฟิลเตอร์ทั้งหมดทันที และสามารถปรับแต่งอ๊อฟชั่นหรือสลับลำดับของฟิลเตอร์ได้เครื่องมือนี้จะช่วยให้การสร้างเอฟเฟ็คต์พิเศษที่จ้องใช้ฟิลเตอร์หลายตัวประกอบกันสะดวกรวดเร็วขึ้นมาก
การเปิด Dry Brush ทำได้ 2 วิธี คือ
1. เปิดจากคำสั่ง Filter>Filter Gallery กรณีนี้ฟิลเตอร์ชุดเดิม ที่คุณเคยเลือกไว้ด้วยิธีนี้จะถูกเรียกกลับขึ้นมา2. เปิดจากคำสั่งของฟิลเตอร์ใดฟิลเตอร์หนึ่งจะถูกจัดอยู่ใน Filter Gallery เช่น Filter>Artistic>Dry Brush จะถูกเรียกใช้ก่อน หลังงานนั้นคณสามารถเลือกฟิลเตอร์อื่น ๆ เพิ่มได้
***2. การตัดต่อและตกแต่งภาพหราฟิก*** เราอาจจะแต่งในภาพเพียงภาพเดียว หรือนำหลาย ๆ ภาพมาตกแต่งร่วมกัน โดยเลือกบางส่วนในแต่ละภาพมาประกอบกัน เราสามารถเลือกส่วนของภาพนั้นได้ด้วยเครื่องมือที่ชื่อ Marquee Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวแรกของชุดเครื่องมือ ประกอบด้วย Rectangle Maquee Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบสี่เหลี่ยมตามที่ต้องการ สังเกตว่าที่เครื่องมือนี้จะมีเครื่องหมายสามเหลี่ยมอยู่ที่มุมล่างด้านขวา แสดงว่าจะมีเครื่องมือในแบบเดียวกันซ่อนอยู่ด้วย โดยเราสามารถเรียกใช้ด้วยการคลิกเมาส์ค้างๆว็ ก็จะปรากฎเครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่ในชุดนี้ขึ้นมา Elliptical Maquee Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบวงกลมหรือวงรีตามที่ต้องการ Single Row Maquee Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบ 1 พิกเซล ตามแนวนอน Single Column Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบ 1 พิกเซล ตามแนวั้งย้ายส่วนของภาพ เมื่อเลือกส่วนของภาพได้แล้ว เราจำเป็นที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายส่วนของภาพนั้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของเครื่องมือ Move Tool สำหรับเคลื่อนย้ายภาพหรือส่วนของภาพที่เราต้องการ ไปยังตำแหน่งใหม่ หรือไปตกแต่งร่วมกับภาพอื่น การใช้งานเพียงแค่คลกเมาส์ที่ส่วนนั้น แล้วลากไปปล่อยทั้งในตำแหน่งที่ต้องการเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ หรือตามรูปร่างของบริเวณภาพที่ต้องการ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ด้วยเครื่องมือ Lasso Tool โดยเครื่องมือชุดนี้ จะประกอบด้วยเครื่องมือ 3 ตัว ด้วยกัน คือ Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ ด้วยการคลิกเมาส์ค้างไว้ แล้วลากคลุมบริเวณที่เราต้องการ จนแนวเส้นการลากมาบรรจบกันอีกครั้ง ก็จะได้ขอบเขตการเลือกภาพที่ต้องการ สามารถใช้เครื่องมือ Move Tool ในการย้ายเพื่อตกแต่งไปได้ Polygonal Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพอิสระ เช่นเดียวกับ Lasso Tool แต่เป็นการเลือกแบบทีละจุดไปเรื่อย ๆ ด้วยการคลิกเมาส์ที่จุดแรก แล้วปล่อย แล้วจึงค่อยคลิกที่จุดต่อ ๆ ไป จนแนวเส้นที่คลิกมาบรรจบกันอีกครั้ง Magnetic Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ เช่นเดียวกับ Lasso Tool แต่เป็นการเลือกแบบเช้กค่าสีของภาพ เราเพียงแค่คลิกเมาส์ที่จุดแรกแล้วปล่อย จากนั้นลากเมาสืไปเรื่อย ๆ ให้ใกลกับบริเวณที่เราต้องการ เครื่องมือนี้จะไล่ไปตามขอบเขตอัตโนมัติ แบบแม่เหล้ก ทำให้การเลือกภาพทำได้ง่ายและรวดเร็ว
***3. การใช้งานเลเยอร์***
เป็นเหมือนการวางแผ่นใส่ ซ้อนทับกันเป็นลำดับขั้นขึ้นมาเรื่อย ๆ ดดยแต่ละแผ่นใส เปรียบเสมือนเป็นแต่ละเลเยอรื บริเวณของเลเยอรืที่ไม่มีรูป จะเห็นทะลุถึงเลเยอร์ที่อยุ่ข้่งล่าง โดยกระบวนการเช่นนี้ จะทำให้เกิดเป็นรูปภาพสมบูรณ์ และทำให้เราสามารถจัดวางงานได้ ง่าย การใช้งาน Layers Palette เป็นศูนย์รวมของเลเยอรทั้งหมด ที่มีอยู่ในภาพ โดยเรียงตามลำดับ จากเลเยอร์ที่อบู่บนสุดไปจนถึงเลเยอรืที่อยู่ล่างสุด มี Scoolbar เลื่อนขึ้นลงเพื่อดูเลเยอรืต่าง ๆ แต่ละเลเยอรืจะมีชื่อของเลเยอร์นั้น ๆ อยู่ นอกจากนี้ Layers Palette ยังเป็นเหมือนตัวควบคุมลักษณะการใช้งานของเลเยอร์ทั้งหมด เราสามารถเรียก Layers Palette ขึ้นมาใช้งาน โดยการใช้คำสั่ง Window>Show Layers ที่แถบเมนู Active Layer ในการใช้งานโปรแกรม Photoshop นั้นแม้ประกอบไปด้วยเลเยอร์หลายเลเยอร์ แต่เราจะทำงานได้เพียงทีละเลเยอร์เท่านั้น เลเยอร์ที่เรากำลังทำงานอยู่ เราเรียกว่า Active Layer ซึ่งใน Layers Palette จะปรากฎเป็นแถบสีน้ำเงิน และมีไอคอนปรากฎอยู่ในช่องแสดงสถานะของเลเยอร์ เช่น แสดงวากำลังทำการปรับแต่ลเลเยอร์อยู่หรือเป็นการเพิ่มเลเยอร์ Mask ให้กับเลเยอร์นั้น การเปลี่ยนการทำงานไปในเลเยอร์ต่าง ๆ เราสามารถเรียกเลเยอรืใดทำงานได้ โดยการเลื่อนเมาส์ ไปที่เลเยอร์ที่ต้องการ ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูป และ Click Mousr ที่แถบของเลเยอร์นั้น เลเยอร์นี้นจะกลายเป็น Active Layer โดยทันที การซ่อนการแสดงเลเยอร์ภาพ ภาพหนึ่งจะประกอบไปด้วย เลเยอรืหลายเลเยอร์ ในบางครั้งหากเราต้องการปิดบางเลเยอร์ ไม่ให้มองเห็นก่อน เพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยที่ไม่ได้ลลเลเยอร์นั้นทิ้ง
เราสามารถสั่งให้มีการซ่อน และแสดงเลเยอร์ได้ โดย
1. ซ่อนเลเยอรืโดย Click mouse เพื่อซ่อนเลเยอร์ ซึ่งช่องสถานะนั้นจะเปลี่ยนเป็น
2. ผลลัพธ์ที่ได้ คือ เลเยอร์ Mushroom จะหายไป
3. แสดงเลเยอร์โดย Click mouse อีกครั้งหนึ่ง เพื่อแสดงเลเยอร์ ชอ่งสถานะจะเปลี่ยนเป็นกลับมา
4. ผลลัพธ์ที่ได้ เลเยอร์ Moshroom จะปรากฎขึ้นอีกครั้ง
5. ซ่อนและแสดงหลาย ๆ เลเยอรืพร้อมกัน โดยการ Drag mouse ผ่านช่องสี่เหลี่ยมต่าง ๆ
6. ผลลัพธ์ที่ได้ เลเยอร์ Vegetable, Gevi, Orange และ Mushroom จะหายไป
***4. การวาดภาพและระบายสี***
การใช้ Brush Tool
1. เสือกสีของพู่กัน
2. เลือกขนาดและลักษณะของหัวพู่กัน
3. กำหนดอ๊อฟชั่นต่าง ๆ (โดยการใช้ F5)
4. คลิกภาพวาดตามที่ต้องการ
ส่วนการใช้ Pencil ก็มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายกับ Brush Tool โดยใช้คิำสั่ง Paint Bucket Tool
1. Selection เลือกพื้นที่ภาพที่เราต้องการเติมสี
2. Click Mouse ที่ไอคอน
3. Click Mouse ที่ Foreground Color เพื่อเลือกสีที่จะเติม
4. ปรับค่าสีที่จะเติมในภาพด้วย Tool Options bar โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ เลือกสีที่ใช้เติม ได้แก่ Foreground ใช้สีเดียวกับ Foreground color Pattern เติมภาพด้วยลวดลาย การไล่โทนสีภาพโดยใช้คำสั่ง Gradient Tool
การใช้คำสั่ง Gradient Tool
1. เลือกพื้นที่ที่ต้องการเทสีภาพ ในที่นี้คือ พื้นที่ที่เป็นเส้นประสี่เหลี่ยม
2. Click Mouse ที่ไอคอน Gradient Tool
3. Click Mouse เลือกรูปแบบไล่โทนสีที่ Tool Options bar
4. Drag Mouse จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดปลาย ตามตำแหน่งที่เราต้องการแล้วปล่อยเมาส์ จุดที่เริ่มกดเมาส์
ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น จุดที่ปล่อยเมาส์ถือว่าเป็นจุดปลาย
การแสดงการไล่สี มี 5 รูปแบบ
1. Unear Gradtent Tool การไล่โทนสีในแนวเส้นตรง
2. Radial Gradient การไล่โทนสีตามรัศมีของวงกลม
3. Angular Gradient การไล่โทนสีแบบการวาดจามการหมุนของเข็มนาฬิกา
4 Reflected Gradient การไล่โทนสีแบบภาพสะท้อน
5. Diamond gradient การไล่โทสีแบบประกายแสงของเพชร
***5. การสร้างตัวอักษรและข้อความ***
การพิมพ์ตัวอักษรหรือทำตัวอักษรศิลปืก็คล้ายกับการพิมพ์ลงในโปรแกรม Word หรือ Excel นั้นแหละ มีการกำหนดฟอนด์อักษร เลือกสไตล์ ขนาด การจัดกลาง การกำหนดสีหรือแม้กระทั่งการบิดข้อมความทำให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ คงไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มเปิดไฟลืภาพที่เคยบันทึกไว้ แล้วคลิก Horizontal type Tool ที่กล่องเครื่องมือ สังเกตที่มุมขวามือล่างที่พาเล็ต Leyer จะเกิด Leyer ใหม่ขึ้นมาเป็นรูปตัวคลิกที่ภาพเมาสืจะกลายเป็นรูเคอเซอร์กระพริบ ให้พิมพ์ตัวอักษรลงไปอะไรก็ได้ ถ้าจะปลี่ยนขนิดตัวอักษรก็คลิกเมาส์ที่ตัวอักษรแล้วลากคลุมดำทุกตัว เปลี่ยนฟอนด์ตัวอักษณและอื่น ๆ ได้ที่แถบอ๊อฟชั่นบาร์ ด้านบนต้องการเปลี่ยนรูปร่างของข้อความคลิกที่ Warp Text เลือก Style จามที่ต้องการ หากตัวอักษรที่ได้ไม่กลางหรือต้องการจะปรับขนาดใหม่ ให้คลิกที่ Edit>Free Transform คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากไปวางยังตำแหน่งที่ต้องการ หากต้องการยืด หด ให้นำเมาส์มาชี้บริเวณมุมกรอบรอบตัวอักษรเมาส์จะเป็นรูปที่๕ลิกค้างแล้วลาก ต้องการหมุนตัวอักษรเอียงใช้เมาส์ชี้ที่มุมกรอบรอบตัวอักษรห่างจากรอบพอประมาณ เมาสืจะกลายเป็นรูป คลิกเมาสืค้างไว้แล้วหมุนกำหนดเอฟเฟ็คต์ให้ตัวอักษร คลิกเลือกเลเยอร์ตรงที่เราพิมพืข้อความลงไป ให้เป็นสีน้ำเงิน เลือก พาเล้ต Style เลือกรุปแบบสไตล์ที่โปรแกรมสร้างไว้ได้เลย หรือหากต้องการเอฟเฟ็คต์เพิ่มเติม ให้คลิกที่ปุ่ม Add a layer style เลือกทำเครื่องหมายถูกหน้าสไตล์ที่ต้องการ

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ครั้งที่2 เรื่องเทคนิคการนำเสนอ

1.โค้กซีโร่
2.ข้อมูลเบื้งต้น

น้ำอัดลมประเภท Cola ได้ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกขึ้นในปี 1886 เริ่มโดยนักเภสัชศาสตร์ได้ทำการขายเครื่องดื่มโซดาแบบแก้วในร้านขายยา และสูตรเครื่องดื่มนี้ได้เป็นที่นิยม และเติบโตอย่างรวดเร็วภายใต้ชื่อ Coke จนกระทั่ง Coke ได้มีการขายแฟรนไชส์ โดยที่ Coke นั้นได้พยายามที่จะทำให้สินค้ามีอยู่ในทุกที่ ลูกค้าสามารถหาซื้อได้ตามสะดวก รวมทั้ง Coke ก็ได้มีการปรับตัวไปตามสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ในตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกา ช่วงทศวรรษที่ 1990 ตลาด Cola ยังครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 1 คือ 60% - 70% นอกเหนือจาก น้ำมะนาว รูทเบียร์ น้ำส้ม และอื่น ๆ ส่วนCola Wars Heat Up



ในปี 1980 โค้กได้เปลี่ยนจากการใช้น้ำตาลอ้อยมาเป็นน้ำตาลฟรุคโตส ซึ่งให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลในราคาที่ต่ำ โค้กได้มีความพยายามทำการตลาดให้รุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยการทุ่มเงินลงทุนในโฆษณาจำนวนสูง และโค้กก็ได้พยายามขยายกิจการไปยังตลาดเครื่องดื่ม non - CSD และต่อมา โค้กก็ได้ขยายแบรนด์ด้วยการออก "Coke Diet" ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสูตรของโค้กกลับไม่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากตลาด ทำให้โค้กต้องกลับมาใช้สูตรเครื่องดื่มเดิมเป็นผลิตภัณฑ์หลัก




ข้อมูลเเบ้องต้น SWOT

S=Strength
- Coke เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เนื่องจากการเปิดตลาดออกไปอย่างแพร่หลาย
- Coke เป็นผู้ที่เข้ามาเปิดตลาดเป็นรายแรกทำเป็นที่สนใจสร้างความรู้สึกให้กับตัว ผลิตภัณฑ์ว่า เป็น ของแท้
- เป็น Brand ที่แข็งแกร่งมาก ทำให้คู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบ และทำการแข่งขันได้อยาก



W=Weakness
- มีความเป็นนักอนุรักษ์(Conservative ทำให้การปรับตัวของบริษัทไม่ทันกับคู่แข่งรายอื่นๆ
- มีสายการผลิตที่กว้างมากจนยากที่จะควบคุมการผลิต
- เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

O=Oppornity

- ตลาดยังเปิดกว้างสำหรับเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์
- การสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
- ลักษณะของสินค้า เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องดื่มโคล่านั้นมีจุดต่างจากเครื่องดื่มอื่นซึ่ง ผู้บริโภคเชื่อว่าดื่มแล้วช่วยสร้างความสดชื่นซึ่งเป็นเสมือนจุดขายของสินค้านี้
T=Treat
- มีสินค้าตัวแทน เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มนี้มีการขยายออกอย่างแพร่หลายทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นกว่าในอดีต
- ราคาของวัตถุดิบผันผวน เช่น ราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นย่อมทำให้ส่งผลต่อราคาต่อหน่วยของสินค้าด้วยหากราคาสูงขึ้น ความต้องการย่อมลดลง
- จากผลสำรวจ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชื่นชอบรสชาติของเป๊ปซี่มากกว่า
4.กลุ่มเป้าหมาย
-การทำตลาดคือ ชาย-หญิงวัยรุ่นถึงคนทำงานอายุระหว่าง 18-29 ปี รักในสุขภาพ ที่ยังตัดใจไม่ลงที่จะเลิกดื่มน้ำดำอัดลม แต่ไม่ชื่นชอบรสชาติที่แปลกไปจากโค้กออริจินัลของโค้กไลท์ และไดเอท
5.concept
-อร่อยโดน รสชาติเต็มร้อย น้ำตาลศูนย์ เปอร์เซ็นต์
6.support

-โค้กซีโร่มีความโดดเด่นและแตกต่างในตัวเอง คือมีรสชาติอร่อยโดนใจ ในบรรจุภัณฑ์สีดำเท่ จนเป็นไอคอนของเครื่องดื่มสปาร์คลิ่งปราศจากน้ำตาล สร้าง เทรนด์ใหม่แก่คนผู้บริโภคที่สนใจสุขภาพ
7.Mood & tone/personality



-Poweful




-Proyreessive







-Sinking





8 Desired response
-กลุ่มเป้าหมายได้รู้ถึงผลิตภันฑ์ของโค้กตัวใหม่
-กลุ่มเป้าหมายได้มีตัวเลือกในการบริโภคมากขึ้น
เทคนิคการนำเสนอกรางวางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์
1. ชื่อเรื่อง

2.ข้มูลเบื้องต้น ข้อมูลดังกล่าวประกอบตัวข้อมูลที่เกี่ยวข้อง(ประวัติ)บริษทอะรัยทำอะไรอย่างไร
-บริษทหรือสินค้า ต้องรู้จักบริษทและความเป็นมายอดขายที่ตั้งเป้าไว้
3.แบสรุปยอทางการตลาด
ข้อมูลเบื้องต้น/SWOT
S=Strength
-เช่นเป็นเครื่องดูดฝุ่น
-เป็นโครงสร้างพลาสติกทำให้เครืองดูดฝุ่นเบาบางไม่หนักแน่น
-เหมาะสำหรับในพื้นที่จำกัด เช่นห้องที่อยู่อาศัย หรือขนาดเล็กที่ต้องการทำความในเวลาอันรวดเร็ว
-เป็นสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว อาจอาจทำให้ถูกมองว่าเป็นของที่ไม่จำเป็นย
3.วัตุประสงค์

1.เพื่อดึดดูงความสนใจและสร้างการรับรู้ในคุณสมบัติที่โดดเด่น
4.กลุ่มเป้าหมายหลักศึกษาเกี่ยวกับผู้แน้วโน้มที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยจะต้องศึกษาลักษณะทางกายภาพและอันตรายได้แก่ สถานภาพ บุคลิกภาพ ความคิดเห็น
ตัวอย่าง หญิงชายอายุ29-30ปี อาศัยอยู่ในกทมและหัวเรื่องที่ประเทศสถาพสังคม ปาน กลาง สูง เริ่มทำงานในบริษทธุรกิจได้1-2ปี แยกตัวออกมาจากครอบครัว ชอบทำความสะอาด อิสระ ร่าเริง กะตื้นรื้นร้น
5.Concept
6.Support
7.Mood Tore /personality
- Poweful
- Proyreessive
บทสรุปย่อ












วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานชิ้นที่1

ยินตอนรับสู่งบล็อกแห่งความรักของโมกะโอ